สาน สร้าง ต่อยอด เครือข่ายเพื่อคนมีใจด้านการศึกษา
“เราเชื่อว่า เรามีส่วนพัฒนาการศึกษาเหมือนกัน ถ้าขาดเราไป อาจจะขาดคนรุ่นใหม่ที่รวมคนจำนวนมากมาช่วยเหลือการศึกษานอกระบบ และเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรด้านการศึกษา”
จากความสนใจในปัญหาสังคม ยีราฟ สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง ของ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ รุ่นที่ 1 เขาอยากก่อตั้งกิจการเพื่อเพื่อแก้ปัญหาสังคม และเลือกเจาะจงแก้ไขปัญหาการศึกษา ทุกวันนี้ ยีราฟเป็นผู้บริหารมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ (Saturday School Foundation) มูลนิธิที่รวมอาสาสมัครเข้ามามีส่วนพัฒนาการศึกษา
“เดิมทีผมสนใจปัญหาสังคมอยู่แล้ว และคิดว่าการศึกษาเป็นรากฐานของการทำให้สังคมดีขึ้น” ยีราฟแบ่งปัน “ผมอยากทำ Social Enteprise และอยากเข้ามาสำรวจว่าปัญหาการศึกษาเป็นยังไง มีโอกาสไหนบ้างที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาเต็มที่ ซึ่งความสนใจนี้มีมาก่อนเข้าร่วม TFT ได้ไม่นาน”
เมื่อถามว่า ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ เปลี่ยนแปลงยีราฟอย่างไร เขาตอบว่า
“ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ทำให้ผมได้สัมผัสกับเด็ก ๆ แล้วมองโลกเปลี่ยนไป มองคนเท่ากัน และทำให้อยากแก้ปัญหาเพื่อคนกลุ่มนี้ เพื่อเด็ก ๆ” เขาเล่าด้วยดวงตาเป็นประกาย “นอกจากนั้น ยังได้พัฒนาทักษะทางสังคม เช่น การคุยกับคน การสื่อสาร การบริหารคน และทักษะความเป็นผู้นำ”
ตอนแรก มูลนิธินี้เริ่มต้นจากโครงการโรงเรียนวันเสาร์ ซึ่งยีราฟริเริ่มตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 ของการเป็นครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นได้ขยายมาถึงภาคเรียนที่ 4 และเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นมูลนิธิหลังจากยีราฟจบจากการเป็นครูผู้นำ ฯ
“เราก่อตั้งโรงเรียนวันเสาร์เพราะเห็นว่า นักเรียนไม่ได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ในวันธรรมดา ในห้องเรียน เลยคิดว่า ถ้าเขาได้เรียนสิ่งที่สนใจ และได้พัฒนาศักยภาพสูงสุดให้เดินตามความฝัน จะเป็นอย่างไร”
“โรงเรียนวันเสาร์ยังเป็นพื้นที่รวบรวมคนทั่วไปที่มีใจอยากช่วยด้านการศึกษาเด็กไทยมีอยู่ 10 ล้านคน จึงยังมีเด็กอีกมากมายในสังคมที่ต้องการการเข้าถึง เรายังต้องการคนอีกมากเพื่อช่วยกันแก้ปัญหานี้”
ผลกระทบของโรงเรียนวันเสาร์ที่เริ่มจากคนเพียงคนเดียวได้แผ่ขยายออกไป ทำให้มีคนมาร่วมภารกิจของยีราฟมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ตอนนี้ เราทำงานกับ 60 โรงเรียนในกรุงเทพ และขยายไปอีก 6 จังหวัด เข้าถึงเด็กเกือบ 10,000 คน และอาสาสมัครกว่า 4,000 คน” ยีราฟแบ่งปัน
“เราเชื่อว่า เราจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาเหมือนกัน ถ้าขาดเราไป อาจจะขาดคนรุ่นใหม่ที่รวมคนจำนวนมากมาช่วยเหลือการศึกษานอกระบบ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้จบครูมาก่อน และเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรด้านการศึกษา
เรากำลังทำงานเป็นตัวเชื่อมเครือข่ายด้านการศึกษาในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคิดว่ามนอนาคตจะเปลี่ยนการศึกษาไทยได้”
ถ้ามีพลังวิเศษ เปลี่ยนการศึกษาไทยได้หนึ่งอย่าง ยีราฟอยากจะเปลี่ยนอะไร
“อยากเปลี่ยนระบบการพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา ทั้งครู บุคลากร ผอ. คนที่ทำงานในส่วนราชการของการศึกษาทั้งหมด ต้องได้รับการอัปเกรดความรู้ ความทันโลกอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้เด็ก ๆ บรรลุศักยภาพสูงสุดได้จริง ๆ อาจต้องเปลี่ยนตั้งแต่ต้นน้ำของการสรรหาครู เช่น นักศึกษาที่เรียนในคณะครุศาสตร์”
“ตอนนี้อาจจะยังไม่มีพลังวิเศษนั้นเต็มที่ แต่ก็รู้สึกว่ามีมากขึ้นเรื่อย ๆ” ยีราฟบอก
ท้ายที่สุด ยีราฟได้ฝากข้อความถึง ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ในโอกาสที่ครบรอบ 10 ปี ไว้สั้น ๆ ว่า
“ในโอกาสที่ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ กำลังจะครบรอบ 10 ปี ผมขอให้ TFT เติบโตแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก และสร้างคนที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงต่อไป”
“และสำหรับคนที่มาสมัครโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง ก็ขอให้กล้าพาตัวเองออกนอกพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone) กล้าทำในสิ่งที่ใหม่และแตกต่าง และคว้าโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเอาไว้ครับ”
