เมื่อแรกเริ่มปฏิบัติงาน ครูนุ่มนิ่มตั้งเป้าหมายให้นักเรียนของเธอหันมาชื่นชอบและเห็นความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้น แต่ก็ต้องพบความท้าทายที่ว่า นักเรียนส่วนใหญ่ขาดเป้าหมายในการเรียนรู้ และไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่เนื่องจากข้อจำกัดทางสังคม
เธอจึงปรึกษากับครูดิเรกเพื่อหาทางปรับวิธีการสอน ซึ่งครูดิเรกไม่เพียงแต่อธิบายวิธีการสอนที่ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ให้มุมมองสำคัญที่เปลี่ยนแนวทางการจัดการเรียนการสอนของครูนุ่มนิ่มไปอย่างสิ้นเชิง
“แค่มีนักเรียนคนเดียวที่ตาเป็นประกายจากความเข้าใจ นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว” ครูดิเรกกล่าว
นอกจากการสอนในห้องเรียน ความร่วมมือระหว่างครูในโรงเรียนและครูนุ่มนิ่มยังนำไปสู่การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมระหว่างโรงเรียนและชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น
“ในเทอมนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน คือ การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม (Collective Vision) กิจกรรมนี้ดีมาก ได้เห็นนายก อบต. และชุมชนมาร่วมวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนที่จะช่วยให้โรงเรียนและชุมชนของเราดีขึ้นและเขาพร้อมที่จะสนับสนุนนักเรียนของเราต่อไป” ครูดิเรกกล่าว
“กิจกรรมนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้ครูดิเรกช่วยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งวิสัยทัศน์ร่วมที่ได้จากกิจกรรมนี้ ก็ได้ถูกนำไปใช้ในส่วนงานของครูดิเรกอีกเช่นกัน” ครูนุ่มนิ่มเสริม
เรื่องราวของครูดิเรกและครูนุ่มนิ่ม แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนา ที่เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างข้าราชการครูและภาคส่วนอื่น ๆ ในสังคม เช่น ครูผู้นำฯ จากทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ที่ไม่เพียงสร้างการเรียนรู้ในฐานะมืออาชีพ แต่ยังแรงบันดาลใจ และนำไปสู่การพัฒนาเปลี่ยนแปลงในระดับโรงเรียนและชุมชน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนและชุมชน ผ่านการเป็นครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่ https://tft-fellowship.org